ชนิดของโสมเกาหลี
รากโสมเกาหลี นิยมนำมาใช้ทำเป็นโสมแดงและโสมขาว เป็นพืชที่ควบคุมขอaงรัฐบาลเกาหลี ห้ามนำพันธุ์ออกนอกประเทศ แต่ในไทยเคยพบว่าเกิดตามธรรมชาติเพียงแห่งเดียว[1]
- โสมขาว (White Ginseng) คือ การนำรากโสมที่ล้างสะอาดแล้วมาตากแดดหรืออบให้แห้งทันที[2]
- โสมแดง (Red Ginseng) คือ การนำรากโสมที่ตัดเฉพาะส่วนที่ดี ๆ มาล้างให้สะอาด เป็นโสมที่ผ่านกรรมวิธีการอบและฆ่าเชื้ออย่างถูกต้อง โดยการนำมาอบด้วยไอน้ำประมาณ 120-130 องศาเซลเซียส เป็นระยะเวลา 2-4 ชั่วโมง จนเป็นสีน้ำตาลแดง แล้วจึงนำไปอบให้แห้ง จะได้เป็นสีน้ำตาลแดง (ใส) โดยจะมีสารสำคัญที่ออกฤทธิ์เพิ่มขึ้นอีก 4 ชนิด จึงมีราคาแพงกว่าโสมขาว ขายได้ราคาดี[1],[2]
สรรพคุณของโสมเกาหลี
- รากโสมเกาหลี มีรสหวานชุ่ม ขมเล็กน้อย เป็นยาสุขุม ออกฤทธิ์ต่อปอด ม้าม และกระเพาะอาหาร ใช้เป็นยาบำรุงกำลัง บำรุงอวัยวะภายในร่างกาย ทำให้ร่างกายชุ่มชื่น ช่วยแก้อาการอ่อนเพลีย[3]
- ช่วยปรับสมดุลของร่างกาย ปรับการทำงานของต่อมไร้ท่อต่าง ๆ[1]
- ช่วยแก้อาการหน้ามืดเป็นลม[3]
- ช่วยแก้อาการเหงื่อออกไม่รู้ตัว กระหายน้ำ[3]
- ช่วยแก้อาการเบื่ออาหาร[3]
- ช่วยแก้หัวใจเต้นผิดปกติ หรือหายใจผิดปกติ[3]
- โสมมีสรรพคุณเป็นยาช่วยบำรุงหัวใจ โดยออกฤทธิ์คล้ายกับยา digoxin ช่วยป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด ป้องกันภาวะเส้นเลือดอุดตัน[5]
- ใช้รักษาและป้องกันโรคผนังเส้นเลือดแดงใหญ่หนาและแข็ง โดยโสมจะไปช่วยทำให้คอเลสเตอรอลที่เกาะอยู่ตามผนังหลอดเลือดลดน้อยลง[2]
- โสมมีฤทธิ์ต้านการจับตัวกันของเกล็ดเลือด อันเป็นสาเหตุสำคัญของการอุดตันของหลอดเลือด[2]
- โสมมีฤทธิ์สร้างเม็ดเลือดแดง ซึ่งสามารถนำมาใช้รักษาผู้ที่มีเลือดน้อยหรือผู้ที่โลหิตจางและความดันต่ำได้ และยังช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงในกระดูกได้อีกด้วย[3]
- โสมมีฤทธิ์ต้านพิษต่อตับ โดยโสมสามารถช่วยป้องกันการเกิดพิษต่อตับอันเกิดจากคลอโรฟอร์ม คาร์บอนเตตระคลอไรด์และแอลกอฮอล์ได้[2]
- ใช้เป็นยารักษาโรคเกี่ยวกับความผิดปกติต่าง ๆ เช่น หย่อนสมรรถภาพทางเพศ อาการท้องผูก ระบบทางเดินอาหารทำงานผิดปกติ โลหิตจาง เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และความเครียด[1]
- ช่วยลดอาการร้อนวูบวาบในหญิงวัยหมดประจำเดือนหรืออาการวัยทอง[5]
- ช่วยลดอาการผิวหนังแห้งและเหี่ยวย่น จึงช่วยทำให้ผิวชุ่มชื่นขึ้น[5]
- ช่วยเร่งฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายของผู้ป่วย ช่วยลดอาการข้างเคียงจากการฉายรังสี จากการศึกษาพบว่าโสมสามารถช่วยต่อต้านโรคและอันตรายที่เกิดจากรังสีรวมถึงสารพิษต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ[5]
- นอกจากนี้ยังมีข้อมูลอื่น ๆ ที่ระบุว่าโสมมีฤทธิ์ต่อต้านเชื้อไวรัส HIV-1, ป้องกันอันตรายจากรังสีแกมมา, กระตุ้นการสร้างอสุจิ, เร่งการเจริญเติบโตของรังไข่และการตกไข่, ช่วยลดการหลั่งกรดและน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร ช่วยยับยั้งการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ฯลฯ (ส่วนนี้รวบรวมมาจากหลาย ๆ เว็บไซต์ครับ แต่ข้อมูลที่ได้มาไม่มีแหล่งอ้างอิง)
วิธีใช้
วิธีการใช้ตาม [1],[2] ให้ใช้ส่วนของรากโสมที่มีอายุประมาณ 5-6 ปี นำมาล้างให้สะอาด ตากให้แห้งในที่ร่มประมาณ 2-3 วัน แล้วนำมาหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ ใช้ชงกับน้ำร้อนดื่มและกินกากยาด้วย โดยขนาดที่ใช้คือขนาด 0.6 กรัมต่อวัน[1] ส่วนการใช้รากตาม [3] ให้ใช้ครั้งละ 2-10 กรัม หรืออาจใช้ได้ไม่เกิน 35 กรัม นำมาต้มกับน้ำรับประทาน[3]