“เหตุผลทำไมโสมเกาหลีเป็นโสมที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับว่าเป็นโสมที่มีคุณภาพชั้นเยี่ยมของโลก”
ประการแรก : ประเทศเกาหลีใต้ตั้งอยู่บริเวณเส้นรุ้งที่ 36 และ 38 ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุด สำหรับการเพาะปลูกโสม
ประการที่สอง : เกาหลีใต้ มีลักษณะภูมิประเทศที่เหมาะสมในการเพาะปลูกโสม ซึ่งมีสภาพภูมิอากาศ และคุณภาพของดินเหมาะสม ต่อการเจริญเติบโตของโสม โดยโสมของอเมริกาและโสมจีนนั้น จะต้องอยู่เหนือเส้นรุ้งที่ 42 จึงจะสามารถเพาะปลูกโสมได้ดีที่สุด เพราะจะมีสภาพภูมิอากาศที่เย็นสบาย ซึ่งเมื่อเส้นรุ้งขึ้นไปทางเหนือมาก โดยธรรมชาติพืชจะใช้ระยะเวลาการการแตกหน่อช้าลง ทำให้ระยะการเติบโตของโสมช้าลง ในขณะที่เกาหลีใต้มีอัตราการเติบโตของโสม 180 วันต่อปี แต่จะน้อยกว่า 120 วันต่อปี หากเส้นรุ้งเอียงเพิ่มขึ้น
ประการที่สาม : เกาหลีมีดินที่เหมาะสมที่สุด ที่ใช้ในการเพาะปลูกโสม ในประเทศเกาหลีหากมีพื้นที่ที่วางแผนจะเพาะปลูกโสม จะมีการวางแผนสำหรับการปลูกโสม, พื้นที่นั้นจะได้ถูกเตรียมพื้นที่หน้าดินด้วยเกษตรอินทรีย์ มากกว่าหนึ่งปี เพื่อให้ดินมีความสมกับการปลูกโสม ได้มากที่สุด แต่หากเป็นประเทศอื่น ๆ จะต้องใช้ค่าใช้จ่ายจำนวนมาก ในการเตรียมพื้นที่การผลิตโดยวิธีเกษตรอินทรีย์
ประการที่สี่ : รากที่ดีที่สุด จะถูกคัดกรองก่อนนำไปเพาะปลูก เพื่อให้ได้ผลผลิตโสมที่ดีที่สุด ในเกาหลีใต้ จะเลือกต้นกล้าในเรือนเพาะชำที่มีลักษณะลำต้น และรากที่แข็งแรง เพื่อใช้เพาะปลูกและใช้เป็นสายพันธุ์หลัก อย่างไรก็ตามในประเทศอื่น ๆ เช่นสหรัฐอเมริกาและแคนดา จะเพาะปลูกโดยไม่ได้เน้นใช้ราก แต่ใช้วิธีเพาะปลูกแบบหว่านเมล็ด โดยใช้เครื่องจักรในพื้นที่เกษตรกรรมที่กว้างใหญ่ อาจทำให้ได้ต้นกล้าที่ไม่ดีนัก
ประการที่ห้า : โสมเกาหลีที่เพาะปลูกด้วยราก จะถูกเพาะเลี้ยงในเรือนเพาะชำเป็นเวลา 1 ปี และจะถูกนำไปเพาะปลูกในพื้นที่เพาะปลูก ขนาดใหญ่อีกเป็นเวลา 5 ปี ขณะที่ประเทศจีนที่เพิ่งเริ่มการเพาะปลูกด้วยราก ในโรงเพาะชำเป็นเวลา 1 ปี ยังมีขนาดลำต้นที่เล็กเกินไป ทำให้ต้องใช้เวลาในการเพาะปลูกในเรือนเพาะชำถึง 2 ปีและในพื้นที่ขนาดใหญ่อีก 5 ปี ซึ่งส่งผลให้โสมมีขนาดรูปร่างลำต้นแตกต่างกัน แต่โสมเกาหลีจะมีลักษณะของโสมที่สมบูรณ์ที่สุด โดยจะมีลำต้นเหมือนร่างกายมนุษย์ที่มีลำตัวและ